ศธ. แจงประเด็นศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างชาติในไทย ไม่เคยปิดกั้นโอกาสทางการศึกษา คาดยกร่างเสร็จสัปดาห์นี้แน่นอน
ศธ. แจงประเด็นศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างชาติในไทย ไม่เคยปิดกั้นโอกาสทางการศึกษา คาดยกร่างเสร็จสัปดาห์นี้แน่นอน
1 พฤศจิกายน 2567 – พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงนโยบายในการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กทุกคนในประเทศไทย ว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มุ่งมั่นให้เกิดความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา ให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างมีความสุข โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยหรือบุตรหลานแรงงานข้ามชาติซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเฉพาะด้าน
"กระทรวงศึกษาธิการยึดมั่นในหลักการให้การศึกษาที่เท่าเทียมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราต้องการเห็นเด็กทุกคนมีโอกาสเรียนรู้อย่างเสมอภาคและเติบโตในสังคมอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นเด็กต่างชาติในระบบการศึกษาหรือเด็กต่างชาติที่เข้ามาเรียนในศูนย์การเรียนรู้" รมว.ศธ. กล่าว
ทั้งนี้ ในการดำเนินงาน ศธ. ได้ออกนโยบายการจัดการศึกษาที่ครอบคลุมเพื่อให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสพัฒนาทั้งด้านบุคลิกภาพ ความรู้ และทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น อีกทั้งได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้เด็กต่างชาติได้เข้าถึงการศึกษาโดยสะดวก ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้เด็กทุกคนเท่าเทียมกัน
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ได้ชี้แจงประเด็นศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างชาติ หลังมีการกล่าวถึงกระทรวงศึกษาธิการว่าไม่มีระบบจัดการในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ดูแลเด็กให้เข้าถึงสิทธิด้านการศึกษายาวนานกว่าทศวรรษ และได้พยายามนำเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาตามกฎระเบียบอย่างถูกต้อง ซึ่ง ศธ. ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องการจัดการศึกษาให้เด็กต่างสัญชาติที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอย่างเท่าเทียม ตามที่มาตรา 12 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง และอนุสนธิสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
นอกจากนี้ ศธ.ก็ยังดำเนินการแก้ปัญหาเชิงระบบควบคู่กันไปด้วย ยกตัวอย่างสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลการศึกษาในพื้นที่ได้ออกประกาศขอให้เด็กต่างด้าวทุกสัญชาติในพื้นที่สุราษฎร์ธานี ที่มีความต้องการเข้ารับการศึกษาในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อประสานสถานศึกษารับนักเรียนเข้ารับการศึกษาต่อไป เช่น โรงเรียนตวงวิชช์พัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี ก็รับนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทยเข้าเรียนเป็นที่เรียบร้อย เห็นได้ชัดเจนถึงการตื่นตัวอย่างเร่งด่วนและรวดเร็วเพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาที่ต่อเนื่อง ให้การเรียนรู้และพัฒนาการเป็นไปตามช่วงวัย
นอกจากนี้สภาการศึกษาก็ดำเนินการยกร่างปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวง ในการรองรับการจัดการศึกษาให้เด็กต่างชาติที่ไม่ใช่ศูนย์การเรียนรู้ตามมาตรา 12 เพื่อจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยและบุตรหลานแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เปิดกว้างการอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวแก่เด็กกลุ่มนี้ให้เข้าถึงการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสม นับเป็นการให้โอกาสเด็กทุกคนได้เรียนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามนโยบายของ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคาดว่าจะดำเนินการยกร่างเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้
////////////////////////////////////////
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น